1359 จำนวนผู้เข้าชม |
นางสาววีรยา ศรีวัฒนะ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย (CGSI) ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น บมจ. 88 ไทยแลนด์ (88TH) เปิดเผยผลการเปิดขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 59.5 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 28% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ในราคาหุ้นละ 5.45 บาท จากราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท ระหว่างวันที่ 25–26 และ 29 กันยายนที่ผ่านมาว่า ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ทำให้สามารถปิดยอดจองได้ตามเป้าหมาย สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อการตั้งราคา IPO ที่สมเหตุสมผล สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ดูได้จากความแข็งแกร่งของแบรนด์ LYO ที่ช่วยขับเคลื่อนให้รายได้และกำไรช่วง 3 ปีล่าสุด เติบโตเฉลี่ยปีหนึ่งๆ ไม่ต่ำกว่า 30% ขณะที่รายได้และกำไรครึ่งแรกปีนี้ เติบโตดีกว่าครึ่งแรกปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญ โดยกำไรเติบโตก้าวกระโดดกว่า 205% ทั้งที่รายได้เพิ่มขึ้น 45% การมีฐานะการเงินเข้มแข็ง มีหนี้สินต่อทุนที่ต่ำเพียง 0.45 เท่า ทำให้มีศักยภาพในการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ และน่าจะสูงตามการเติบโตของผลดำเนินงาน ประกอบกับบรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีสัญญานปรับตัวดีขึ้น ทำให้มีความเชื่อมั่นว่า การเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) วันที่ 3 ตุลาคมนี้ จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ด้านนางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ (Pioneer) ที่ปรึกษาทางการเงินที่ทำงานร่วมกับบริษัทฯ มาต่อเนื่อง เสริมว่า การได้เงินทุนจากการขายหุ้น IPO จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้กับบริษัทฯ ทั้งในแง่ของการขยายช่องทางจำหน่าย การทำการตลาดเพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่า และเพิ่มลูกค้าใหม่ การเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในวงกว้างมากขึ้น ช่วยสนับสนุนการเติบโตของผลดำเนินงาน เข้าข่ายหุ้นเติบโตสูง (Growth Stock) ควบคู่กับการเป็นหุ้นปันผล (Dividend Stock) เนื่องจากบริษัทฯ มีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ หลังหักสำรองต่างๆ ที่กฎหมายกำหนด
ส่วนนางสาวนพรัตน์ มาลัยวงค์ ในฐานะผู้ก่อตั้ง และกรรมการ 88TH ขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความไว้วางใจบริษัทฯ และพร้อมตอบแทนนักลงทุนทุกราย ด้วยการเดินหน้าผลักดันผลดำเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน เฉพาะปีนี้ จะพยายามผลักดันรายได้และกำไรให้เติบโตทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) ตามแผนงานที่วางไว้ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ผู้ถือหุ้นใหญ่พร้อมใจกัน Lock
สำหรับความเห็นนักวิเคราะห์จาก 4 สำนักที่ร่วมเป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย ประเมินราคาเหมะสมปี 2569 อยู่ที่ 10-13 บาท เนื่องจากคาดหมายกำไรสุทธิปีนี้และปีหน้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 40% จากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ ภายใต้แบรนด์ LYO เสริมด้วยแรงหนุนจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิว แบรนด์ โฮน (HONE) กับกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง แบรนด์ เวอร์.88 (ver.88)อย่างต่อเนื่อง