1334 จำนวนผู้เข้าชม |
บมจ. เจนก้องไกล (JPARK) เปิดเผยผลดำเนินงานงวดไตรมาสปี 2568 มีกำไรสุทธิ 23.4 ล้านบาท ลดลง 5.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และลดลง 0.7% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) โดยการลดลง YoY มีสาเหตุจากธุรกิจให้คำปรึกษาและรับติดตั้งระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ (CIPS) ยังไม่มีโครงการใหม่ขนาดใหญ่มาทดแทน นับตั้งแต่ที่ส่งมอบงานทั้งหมดในไตรมาส 2 ปีก่อน ทำให้รายได้ลดลง 71.8% เหลือ 9.8 ล้านบาท และฉุดให้รายได้รวมลดลง 12% เหลือ 133.86 ล้านบาท ขณะที่การลดลง QoQ เกิดจากธุรกิจให้บริการที่จอดรถ (PS) ไม่ได้มีการเปิดพื้นที่ใหม่ในไตรมาสแรก อีกทั้งบริษัทฯ ยังตัดสินใจไม่ต่อสัญญาในบางพื้นที่ กดดันให้รายได้ลดลง 3.6% มาอยู่ที่ 95.51 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้รวมลดลง 4.4% แต่ในขณะเดียวกัน ก็ช่วยให้ค่าเสื่อมราคาลดลงจากการไม่ต่อสัญญา ซึ่งเมื่อคิดรวมกับรายได้จากธุรกิจรับจ้างบริการจัดการพื้นที่ลานจอดรถ (PMS) ที่ยังคงสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยทำได้ 25.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.8% YoY และทรงตัว QoQ เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับสัญญาจ้างบริหารจัดการพื้นที่ลานจอดรถเพิ่ม และได้มีการปรับเพิ่มอัตราค่าบริหารจัดการจากการต่อสัญญาฉบับใหม่กับการรถไฟฟ้าแห่งประเทศไทย ที่เป็นผู้ว่าจ้าง ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น จาก 27.7% ในไตรมาสแรกปีก่อน และ 29.4% ในไตรมาสสุดท้ายปีก่อน มาอยู่ที่ 29.5% ทำให้ผลดำเนินงานออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด
พร้อมกันนี้ นายสันติพล เจนวัฒนไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JPARK ได้ออกมาฉายภาพธุรกิจในไตรมาส 2 ว่า น่าจะเห็นการเติบโตดีขึ้นจากไตรมาสแรก จากความสำเร็จในการทำประชาสัมพันธ์ ทำให้มีผู้มาใช้บริการจอดรถเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ที่เพิ่งเปิดให้บริการ อย่างลานจอดรถบริเวณตลาดสดบางกอกน้อย อาคารจอดรถเจปาร์ค กาญจนสุข บริเวณโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า รวมถึงโอกาสได้สิทธิบริหารพื้นที่จอดรถที่เป็นโครงการขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น ซึ่งอยู่ในระหว่างการเจรจาขั้นสุดท้าย หนุนให้รายได้จากธุรกิจ PS และธุรกิจ CIPS ในครึ่งปีหลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ผลักดันให้รายได้ทั้งปีเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (New All Time High) ตามเป้าหมายที่วางไว้