MC แจงแผนธุรกิจปี 2569 เน้นเพิ่มความสามารถทำกำไรเป็นหลัก หวังเพิ่มปันผล จากที่เตรียมจ่าย 0.41 บาท ขึ้น XD 4 พ.ย.

1628 จำนวนผู้เข้าชม  | 

MC แจงแผนธุรกิจปี 2569 เน้นเพิ่มความสามารถทำกำไรเป็นหลัก หวังเพิ่มปันผล จากที่เตรียมจ่าย 0.41 บาท ขึ้น XD 4 พ.ย.




นายแมทธิว กิจโอธาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. แม็คกรุ๊ป (MC) ธุรกิจค้าปลีก สินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ ภายใต้แบรนด์ แม็คยีนส์ เปิดเผยแผนธุรกิจรอบบัญชีปี 2569 (เริ่ม 1 ก.ค. 2568 ถึง 30 มิ.ย. 2569) ว่า พร้อมผลักดันการเติบโตอย่างมีคุณภาพ ทั้งด้านรายได้ ความสามารถทำกำไร และการเพิ่มฐานลูกค้าที่ Active โดยตั้งเป้ายอดขายเติบโต 6% จากรอบบัญชีปีก่อน ขณะที่บริหารอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับ 64-65% ใกล้เคียงรอบบัญชีปีก่อน ผ่านการเพิ่มยอดขายในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นช่องทางออนไลน์ ในรูปแบบ Exclusive Items ผ่าน Tiktok ซึ่งตั้งเป้าการเติบโตเพิ่มจาก 17% ในรอบบัญชีปีก่อน มาเป็น 25% หรือช่องทางออฟไลน์ ด้วยการขยายสาขาเพิ่ม 7-10 สาขา ควบคู่ไปกับการปรับปรุงสาขาเดิม ด้วยการขยายพื้นที่ขายต่อสาขาเพิ่มขึ้น ปรับโฉมการจัดวางสินค้า รวมถึงการออกคอลเลคชั่นใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ไม่ใช่ผ้ายีนส์ (Non-Denim) รวม Accessories ซี่งได้รับกระแสนิยมมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายสินค้ากลุ่มนี้เพิ่มเป็น 67% ของยอดขายรวมในปีก่อน ตลอดจนควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุมต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน และรักษาอัตรากำไรสุทธิให้ได้ 18%

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ พร้อมใช้จุดแข็งจากการไม่มีหนี้สินกับสถาบันการเงิน และมีกระแสเงินสดในมือสูงกว่า 2,000 พันล้านบาท สร้างการเติบโตและหาโอกาสใหม่ๆ ในธุรกิจต่อไป โดยเฉพาะการขยายตลาดต่างประเทศ

สำหรับผลดําเนินงานรอบบัญชีปี 2568 (เริ่ม 1 ก.ค. 2567 ถึง 30 มิ.ย. 2568) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 760 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หนุนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น 2.4% เป็น 4,152 ล้านบาท หลักๆ มาจากช่องทางออนไลน์ที่เติบโตอย่างโดดเด่น ช่วยชดเชยยอดขายผ่านหน้าร้านที่ชะลอตัวได้เป็นอย่างดี และการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 0.7% เป็น 18.0% ถึงแม้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของรอบบัญชี ภาวะการค้าจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยความไม่แน่นอนทั้งในและต่างประเทศ เช่น หนี้ครัวเรือน การชะลอตัวของนักท่องเที่ยว สถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และมาตรการภาษีของอเมริกา กดดันให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง

ที่สำคัญ การเติบโตของยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้สัดส่วนรายได้เพิ่มจาก 10% ในรอบบัญชีปี 2567 ขึ้นมาเป็น 17% ขณะที่ยอดขายผ่านหน้าร้าน ทั้งร้านค้าปลีกของตนเอง (Free-standing Shop) และสาขาในห้างสรรพสินค้า ปรับลดลงจาก 68% และ 19% ลงมาเหลือ 64% และ 17% ตามลำดับ สอดคล้องกับการปิดสาขาที่ไม่คุ้มค่า 12 แห่ง ทำให้จำนวนจุดหน่ายรวมลดลงเหลือ 570 จุด ในจำนวนนี้ 8 สาขา เป็นสาขาในรูปแบบร้านค้าปลีกของตนเอง (ทำให้จำนวนสาขาล่าสุดอยู่ที่ 426 สาขา) อีก 4 สาขา กระจายตัวในห้างสรรพสินค้า (ทำให้จำนวนสาขาล่าสุด มีทั้งสิ้น 129 สาขา) ขณะที่สาขาต่างประเทศ ยังมี 9 สาขา เท่าเดิม เช่นเดียวกับสาขาในรูปแบบรถ Mobile Unit ที่มี 6 คัน เท่าเดิม






โอกาสนี้ บริษัทฯ เตรียมจ่ายปันผลสำหรับผลดำเนินงานงวดครึ่งปีหลัง ในอัตราหุ้นละ 0.41 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่ 3.8% (อิงราคาหุ้นที่ 11 บาท) กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (วันขึ้น XD) 4 พฤศจิกายนนี้ และกำหนดจ่ายเงินวันที่ 25 พฤศจิกายน แต่หากคิดรวมเงินปันผลงวดครึ่งปีแรกที่จ่ายก่อนหน้านี้ ในอัตราหุ้นละ 0.55 บาท จะทำให้จ่ายปันผลทั้งปีในอัตรา 8.7% (อิงราคาหุ้นที่ 11 บาท) ตอกย้ำความเป็นหุ้นปันผลสูงต่อเนื่องกว่า 10 ปี

             

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้