1002 จำนวนผู้เข้าชม |
บมจ. ธนาคารกรุงเทพ (BBL) รายงานผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 1.38 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 16.5% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ดีกว่าที่ตลาดคาด หนุนจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) ที่เพิ่มขึ้น 35.7% YoY และ 33% QoQ เป็น 1.69 หมื่นล้านบาท สาเหตุหลักจากกำไรจากเงินลงทุนที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) ที่เติบโตแข็งแกร่ง และการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียม ตามการเติบโตในธุรกิจหลักทรัพย์ กองทุนรวม และนายหน้าขายประกัน ช่วยชดเชยรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิ (NII) ที่ลดลง 3.0% QoQ และ 7.8% YoY ตามทิศทางดอกเบี้ย และการชะลอตัวของสินเชื่อ ได้เป็นอย่างดี และหนุนให้ผลดำเนินงานงวด 9 เดือนปีนี้ ธนาคารมีกำไรสุทธิ 3.82 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ทั้งที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิจะลดลง 5.6% มาอยู่ที่ 9.43 หมื่นล้านบาท
ด้านคุณภาพสินทรัพย์ สามารถควบคุมให้ทรงตัวที่ 3.3% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการชะลอปล่อยสินเชื่อ ทำให้สินเชื่อช่วง 9 เดือนปีนี้ ชะลอตัวจากสิ้นปีก่อน 3.2% มาอยู่ที่ 2.6 ล้านล้านบาท แต่เพื่อรองรับความไม่แน่นอนต่างๆ รวมถึงความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ที่อาจเกิดในอนาคต ธนาคารได้มีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) เร่งตัวจาก 266.6% ในไตรมาส 3 ปีก่อน และ 283.6% ในไตรมาส 2 ปีนี้ ขึ้นมาเป็น 294.2% พร้อมกับหนุนให้อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง เพิ่มขึ้นเป็น 22.6% ในจำนวนนี้เป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่ 18% ทำสถิติสูงสุดในกลุ่มธนาคาร