TEBP นับหนึ่งแผนขายหุ้น IPO เข้าตลาด mai ไตรมาสแรกปี 2569 ผู้ถือหุ้น TEGH มีสิทธิลุ้นหุ้น IPO

นางรัชดา เกลียวปฏินนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 2 บมจ. หลักทรัพย์ เคจีไอ ประเทศไทย (KGI) ที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ. ไทยอีสเทิร์นไบโอพาวเวอร์ (TEBP) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 90 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 25.17% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมด ที่ราคาพาร์ หุ้นละ 1 บาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) ภายในต้นปี 2569 โดยมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ลงทุนขยายกำลังการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพในธุรกิจบริหารจัดการกากของเสียอินทรีย์ และธุรกิจผลิตก๊าซชีวภาพ รวมถึงพัฒนาสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจปัจจุบัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างรายได้แข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมกับนำเงินบางส่วนไปชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน ยกระดับฐานะการเงินให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น ผลักดันให้ธุรกิจสามารถเติบโตก้าวกระโดดในระยะสั้น และปูทางขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำด้านพลังงานสะอาดในระยะยาว 

ทั้งนี้ TEPB เป็นบริษัทลูกของ บมจ. ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) ทำธุรกิจ 3 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจรับบริหารจัดการกากอินทรีย์แบบครบวงจร (Organic Waste Management - OWM) ผลิตและจำหน่ายก๊าซชีวภาพ (Biogas) รวมถึงผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสอดคล้องกับกระแสการใช้พลังงานสะอาด และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศไทย

การเป็นบริษัทลูกของ TEGH ทำให้จะมีการจัดสรรหุ้น TEBP จำนวน 10.8 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขาย IPO ให้กับผู้ถือหุ้น TEGH ตามสัดส่วนการถือหุ้น (Pre-emptive Offering) เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับจัดสรร โดยกำหนดอัตราการจัดสรรหุ้น IPO ที่ 100 หุ้น TEGH ต่อ 1 หุ้น TEBP กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิจัดสรรหุ้น IPO (วันขึ้นเครื่องหมาย XB) 12 ธันวาคมนี้ 

ด้านนายก้องกิต โกกนุทาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TEBP ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai นอกจากจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการผลิตก๊าซชีวภาพสำหรับลูกค้าในภาคอุตสาหกรรม หรือภาคธุรกิจอื่นๆ ที่ต้องการพลังงานสะอาด เพื่อใช้ทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล สอดคล้องกับนโยบายของประเทศที่สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด รวมถึงขยายโอกาสในการรับบริหารจัดการกากอินทรีย์ให้มีปริมาณสูงขึ้น ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งภายในกลุ่มบริษัทฯ และลูกค้า สร้างการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างมั่นคงต่อเนื่องได้แล้ว ยังจะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี ทำให้บริษัทฯ เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น สนับสนุนให้บริษัทฯ สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความยั่งยืนตามมา

สำหรับผลดำเนินงาน 3 ปีล่าสุด (ปี 2565-67) บริษัทฯ มีการเติบโตของรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้จากการขายและให้บริการเร่งตัวจาก 188.41 ล้านบาท เป็น 221.28 ล้านบาท และ 251.01 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มจาก 24.76 ล้านบาท เป็น 61.07 ล้านบาท (เมื่อตัดรายการพิเศษจากการยกเลิกสัญญาเช่ากับบริษัทแม่ จำนวน 15.83 ล้านบาทออกไป) และ 68.35 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลจากปริมาณการให้บริการและการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น ตามโครงการลงทุนของ TEBP ที่มีการขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา

ส่วนงวดบัญชีครึ่งแรกปี 2568 นี้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 44.37 ล้านบาท เติบโต 39.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามรายได้จากการขายและการให้บริการที่เติบโต 43.9% เป็น 166.03 ล้านบาท